9 อันดับประเทศที่ค่ารถเมล์แพงที่สุดในโลก แม้ราคาจะแพงหูดับ แต่คุณภาพมาเต็ม


ถือเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้คนไทยตื่นตัวกันไม่น้อย เมื่อ ขสมก.ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะ หรือรถเมล์ โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ย่อมมีผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงทางอ้อม และตามมาด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้บริการว่า คุณภาพของรถเมล์ไทยนั้น คุ้มค่ากับราคาค่าโดยสารแล้วหรือยัง แต่ในระหว่างรอดูการพัฒนาคุณภาพของรถเมล์ไทยหลังจากการปรับขึ้นค่าบริการนั้น ลองมาสำรวจ 9 อันดับประเทศที่ค่ารถเมล์แพงที่สุดในโลกกันก่อนดีกว่าค่ะ เพราะงานนี้ต้องบอกเลยว่า แม้ราคาจะแพงหูดับ แต่ในเรื่องของคุณภาพนั้น มาเต็มคับรถบัสเลยทีเดียว ส่วนจะมีประเทศใดและมีบริการประทับใจแค่ไหนนั้น ตามเราไปดูกันค่ะ

9. ประเทศเยอรมนี

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $105.08 หรือประมาณ 3,350 บาท

อย่างที่รู้กันดีว่า ระบบรถสาธารณะของทั้งเยอรมนีและทวีปยุโรปนั้น มีทั้งคุณภาพและมาตรฐานที่สูงมาก จึงไม่แปลกที่คนเมืองส่วนใหญ่จะสามารถอยู่ได้สบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัว โดยการขึ้นรถบัสสาธารณะก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี และถึงแม้ว่าราคาจะติดอับดับท็อป 10 ของโลก แต่รถบัสก็ยังถือเป็นการเดินทางที่ราคาถูกที่สุดในเยอรมนี แถมยังมีหลากหลายเส้นทางให้เลือก ตั้งแต่สายที่เดินทางข้ามเมืองภายในประเทศ ไปจนถึงสายที่วิ่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ปราก หรือฝรั่งเศสได้เลยค่ะ

8. ประเทศเนเธอร์แลนด์

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $105.14 หรือประมาณ 3,360 บาท

ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในฝันของใครหลายๆ คน แถมความดีงามของระบบรถสาธารณะของประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น อยู่ตรงที่ผู้โดยสารสามารถใช้ตั๋วโดยสายแบบเดียวกันครอบคลุมทั้งการเดินทางทั้งรถบัส รถราง รถไฟใต้ดิน และรถไฟอื่นๆ แต่แอบกระซิบไว้ก่อนว่า รถเมล์ที่นี่ก็มีการตรวจตั๋วแบบไม่คาดคิดเหมือนเมืองไทย และมาในค่าปรับที่แพงกว่าเยอะ ดังนั้น ขึ้นรถแล้วต้องไม่ลืมเก็บรักษาตั๋วไว้ให้ดีด้วยค่ะ

7. ประเทศแคนาดา

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $108.8 หรือประมาณ 3,500 บาท

เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่รถเมล์ให้บริการมีระดับประทับใจอย่างมาก โดยระบบรถบัสของแคนาดานั้น ไม่มีกระเป๋ารถเมล์คอยเก็บเงินหรือ สั่งให้ชิดในอย่างแน่นอน เพราะทุกคนจะต้องจ่ายเงินที่ประตูหน้าตรงเครื่องรับเงินข้างคนขับ หรือไม่ก็ใช้บัตรระบบ Translink ซึ่งเป็นบัตรเดียวที่สามารถใช้เดินทางได้ทุกบริการ แต่ที่ดีต่อใจผู้โดยสารมากที่สุด เห็นจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถเช็กได้ว่า รถเมล์จะมาถึงกี่โมง โดยรับประกันเลยว่า รถเมล์แคนาดามาตรงเวลาเป๊ะ แถมจอดตรงป้ายทุกครั้งอีกด้วย

6. ประเทศสหรัฐอเมริกา

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $121 หรือประมาณ 3,800 บาท

รถบัส หรือ Citi Bus ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ถือเป็นอีกหนึ่งระบบสาธารณะที่มีความตรงเวลาสูง โดยรับประกันเลยว่าเลทนานสุดไม่เกิน 5 นาที และเช่นเดียวกับระบบรถเมล์ของหลายประเทศที่ไม่มีพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งการหยอดเหรียญจ่ายค่ารถนั้น ผู้โดยสารจะต้องเตรียมเงินมาให้พอดีเพราะที่นี่จะไม่มีระบบทอนเงินค่ะ แต่นอกจากระบบที่มีมาตรฐานแล้ว รถบัสของสหรัฐอเมริกายังมีลิฟท์และที่นั่งพิเศษสำหรับคนพิการ รวมทั้งที่แขวนจักรยานด้านข้างของรถเพื่อนตอบโจทย์สายนักปั่นอีกด้วย

5. ประเทศแอฟริกาใต้

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $126.56 หรือประมาณ 4,000 บาท

แม้ว่าราคาค่าโดยสารรถบัสสาธารณะของประเทศแอฟริกาใต้จะติดถึง Top 5 ของโลก แต่สำหรับบริการรถขนส่งสาธารณะนั้น อาจมีมาตรฐานเฉพาะในช่วงกลางเมืองของ Cape Town เท่านั้น ส่วนเมืองอื่นๆ จะยังไม่มีรถเมล์อำนวยความสะดวก อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่แอฟริกาใต้ ขอแนะนำเป็นรถเมล์สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะซึ่งเป็นรถสีแดง 2 ชั้น โดยรถเมล์ท่องเที่ยวจะจอดแวะเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ เท่านั้นค่ะ

4. ประเทศไอร์แลนด์

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $135.68 หรือประมาณ 4,300 บาท

ไม่ใช่แค่ค่ารถเมล์ของไอร์แลนด์จะมีราคาสูงติดอันดับ 4 ของโลกเท่านั้น ค่ารถของเมืองดับลินซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของไอร์แลนด์ ยังมีค่าโดยสารแพงที่สุดในยูโรโซนอีกด้วย อย่างก็ตาม ต้องบอกเลยว่าการเดินทางด้วยรถเมล์สาธารณะของที่นี่มีความไฮเทคสมราคาอย่างมาก เพราะผู้โดยสารสามารถดูข้อมูลรถบัสได้จากทั้งเว็ปไซต์ และแอปพลิเคชั่น เพียงแค่ใส่ชื่อสถานที่ที่ต้องการไปและตำแหน่งที่เราอยู่ ก็สามารถหาข้อมูลได้เลยว่าเราจะต้องไปขึ้นรถเมล์ที่ป้ายไหน สายอะไร รถจะมาถึงตอนกี่โมง รวมทั้งใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ ถือเป็นบริการสุดล้ำที่ช่วยวางแผนการเดินทางได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วเท่านั้นค่ะ

3. ประเทศนิวซีแลนด์

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $135.69 หรือประมาณ 4,300 บาท

สำหรับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงอย่างนิวซีแลนด์ คงไม่น่าแปลกใจนักหากค่าโดยสารรถเมล์ของที่นี่จะสูงลิบติดอันดับ 3 ของโลก โดยเฉพาะที่เมืองหลวงโอ๊คแลนด์ซึ่งราคาบัตรโดยสารรายเดือนนั้นทะลุสี่พันบาทเลยทีเดียว แต่ก็ยังถือว่าคุ้มเพราะจากการสำรวจพบว่า มีผู้ใช้บริการเพียง 8% เท่านั้นที่ใช้ตั๋วแบบรายวัน นอกจากนี้ รถโดยสารของนิวซีแลนด์ยังมีการออกแบบมาเพื่อบริการรถเข็นผู้พิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งมีจุดจอดเชื่อมต่อกับบริการรถสาธารณะประเภทอื่นๆ โดยรอบอีกด้วย

2. ประเทศออสเตรเลีย

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $153.78 หรือประมาณ 4,900 บาท

ออสเตรเลียถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพสูงติดอันดับโลก จึงไม่แปลกใจนักที่ค่าโดยสารรถเมล์ของออสเตรเลียจะคว้าอันดับ 2 ของโลกมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่วนี้ ออสเตรเลียก็ถือเป็นประเทศที่มีค่าแรงสูงมากอีกด้วย ขณะที่การใช้บริการขนส่งมวลชนของออสเตรเลียนั้น ถือเป็นเรื่องง่ายแสนสะดวกสบาย เพราะมีเครือข่ายครอบคลุมทุกสถานที่อย่างทั่วถึง รวมทั้งมีการเชื่อมต่อกับระบบสาธารณะอื่นๆ ทั้งหมด แถมเรื่องความตรงต่อเวลา ก็ตรงเป๊ะไม่แพ้รถไฟเลยค่ะ

1. ประเทศอังกฤษ

ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคน เดือนละ $197.72 หรือ ประมาณ 6,300 บาท

ประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะกรุงลอนดอนนั้น ถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แต่ถึงแม้ว่าอัตราค่ารถโดยสารของที่นี่จะแพงติดอันดับ 1 การขึ้นรถเมล์ของลอนดอนก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องลองไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะรถเมล์แบบเก่า รุ่นคลาสสิคที่คุณภาพของรถไม่ได้เก่าเหมือนรูปลักษณ์ภายนอกนั้น แอบกระซิบว่ามีให้บริการเพียงบางสายเท่านั้นค่ะ ขณะที่รถเมล์ไม่ว่าจะเป็นแบบเก่าหรือแบบใหม่ ก็มักจะโดดเด่นด้วยสีแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ แถมยังรับประกันความสะอาด รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงต่อเวลา สมราคารถเมล์ราคาแพงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน




แนะนำ




วาไรตี้


วาไรตี้เรื่องน่ารู้สุขภาพโลกเอียงความรู้โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเกร็ดความรู้บ้านหมุน

บิวตี้ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย สุขภาพ ดูดวง ความรัก วาไรตี้